กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๐๘)
ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา ๕ และ มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ให้กำหนดวิชาชีพวิศวกรรมในสาขา แขนง และขนาด ดังต่อไปนี้ เป็นวิชาขีพวิศวกรรมควบคุม
สาขา ๑ วิศวกรรมโยธา
๑. งานออกแบบและคำนวณ หมายถึง การใช้ความรู้ในสาขาวิศวกรรมโยธา เพื่อให้ได้มาซึ่งรายละเอียดในการก่อสร้างโดยแสดงเป็นแบบรูป ข้อกำหนด และประมาณการ
๒. งานควบคุมการก่อสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการก่อสร้างในสาขาวิศวกรรมโยธา ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ แบบรูป และข้อกำหนด
๓. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิเคราะห์ การทดสอบ การหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานในสาขาวิศวกรรมโยธา
๔. งานวางโครงการก่อสร้าง หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางแผนงานการก่อสร้างในสาขาวิศวกรรมโยธา
๕. งานให้คำปรึกษา หมายถึง การให้ข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานใน สาขาวิศวกรรมโยธา ตาม ๑. ๒. ๓. และ ๔.
งานในสาขาวิศวกรรมโยธาดังกล่าวข้างต้นนี้ ต้องมีลักษณะ ขนาด หรืออยู่ในประเภทดังต่อไปนี้
(๑) อาคารตั้งแต่สามชั้นขึ้นไปที่ก่อสร้างห่างจากทางสาธารณะไม่เกินสิบสี่เมตร
(๒) โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๓) อาคารถาวรที่ใช้เป็นอาคารสาธารณะหรือเป็นที่อยู่อาศัยของบุคคลจำนวนมาก เช่น โรงมหรสพ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ภัตตาคาร หอประชุม หอสมุด อาคารแบบแฟลท หรืออาคารอย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน
(๔) สะพานที่มีช่วงระหว่างศูนย์กลางตอม่อช่วงใดช่วงหนึ่งยาวตั้งแต่สิบเมตรขึ้นไป
(๕) ท่าสำหรับเทียบเรือที่มีระวางขับน้ำตั้งแต่หนึ่งร้อยตันขึ้นไป
(๖) อู่เรือหรือคานเรือ สำหรับเรือที่มีระวางขับน้ำตั้งแต่ห้าสิบตันขึ้นไป
(๗) เขื่อนกั้นน้ำที่ต้องรับความดันของน้ำหลังเขื่อนที่มีความลึกตั้งแต่สองเมตรขึ้นไป
(๘) กำแพงกันดินที่ต้องรับความดันของดินหลังกำแพงที่มีความสูงตั้งแต่สองเมตรขึ้นไป
(๙) โครงสร้างสำหรับรองรับถังน้ำ ถังน้ำมัน หรือสำหรับใช้ในการรับส่งวิทยุ หรือโทรทัศน์ หรือใช้ในการอื่นใดที่มีความสูงจากระดับฐานตั้งแต่สิบเมตรขึ้นไป เว้นแต่โครงสร้างชั่วคราวที่ใช้กับกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง
(๑๐) ปล่องไฟหรือเสาที่ปลูกสร้างหรือปักไว้ และมีความสูงจากระดับฐานตั้งแต่สิบเมตรขึ้นไป เว้นแต่ปล่องไฟหรือเสาที่ปลูกสร้างหรือปักไว้ชั่วคราว
(๑๑) ถังเก็บของไหล เช่นก๊าซ น้ำ น้ำมัน ที่มีความจุตั้งแต่หนึ่งร้อยลูกบาศก์เมตรขึ้นไป
(๑๒) ทางรถไฟ หรือทางรถราง ซึ่งมีความยาวตั้งแต่สิบกิโลเมตรขึ้นไป
(๑๓) ทางประเภททางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด ทางหลวงเทศบาล และทางหลวงสัมปทาน ตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง
(๑๔) สนามบิน ทางวิ่ง หรือลานจอดเครื่องบิน
(๑๕) อุโมงค์สาธารณะ
(๑๖) สระว่ายน้ำสาธารณะ
(๑๗) งานผลิตน้ำประปาสำหรับประชาชนที่มีปริมาณการผลิต ตั้งแต่หนึ่งพันลูกบาศก์เมตรต่อวันขึ้นไป
สาขา ๒ วิศวกรรมเครื่องกล
๑. งานออกแบบและคำนวณ หมายถึง การใช้ความรู้ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล เพื่อให้ได้มาซึ่งรายละเอียดในการสร้าง โดยแสดงเป็นแบบรูป ข้อกำหนด และประมาณการ ดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องกลจักรที่ให้กำเนิดพลังหรือเครื่องกลที่ใช้พลัง ขนาดเครื่องละตั้งแต่สิบแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๒) เครื่องกำเนิดไอน้ำหรือไออย่างอื่นทุกขนาด
(๓) หม้ออัดอากาศหรือหม้ออัดก๊าซทุกขนาด
(๔) เครื่องปรับภาวะอากาศสำหรับทำความเย็นทุกขนาดและทุกชนิด
๒. งานควบคุมการสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการสร้างในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องกลจักรที่ให้กำเนิดพลังหรือเครื่องกลที่ใช้พลัง ขนาดเครื่องละตั้งแต่สามสิบแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๒) เครื่องกำเนิดไอน้ำหรืออย่างอื่น ขนาดที่มีความดันตั้งแต่ห้ากิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป หรือขนาดที่มีอัตราการผลิตไอน้ำหรือย่างอื่นเครื่องละตั้งแต่ห้าร้อยกิโลกรัมต่อหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
(๓) หม้ออัดอากาศหรือหม้ออัดก๊าซ ขนาดที่มีความดันตั้งแต่ห้ากิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป
(๔) เครื่องปรับภาวะอากาศสำหรับทำความเย็นขนาดเครื่องละตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป
๓. งานอำนวยการควบคุมการประกอบบรรดาสิ่งดังกล่าวใน ๒. ในโรงงานที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่สิบคนขึ้นไป
๔. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิเคราะห์ การทดสอบ การหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล
๕. งานวางโครงการ หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางแผนงานการสร้างหรือการประกอบสิ่งใด ๆ ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล สำหรับโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
๖. งานอำนวยการติดตั้ง
(๑) เครื่องกลจักรที่ให้กำเนิดพลังขนาดเครื่องละตั้งแต่ห้าร้อยแรงม้าเพลาขึ้นไป หรือเครื่องกลที่ใช้พลังขนาดเครื่องละตั้งแต่สี่ร้อยแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๒) เครื่องกำเนิดไอน้ำหรือไออย่างอื่น ขนาดที่มีความดันตั้งแต่เจ็ดกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป หรือขนาดที่มีอัตราการผลิตไอน้ำหรือไออย่างอื่นเครื่องละตั้งแต่หนึ่งพันกกิโลกรัมต่อหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
(๓) หม้ออัดอากาศหรือหม้ออัดก๊าซ ขนาดที่มีความดันตั้งแต่สิบสามกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป
(๔) เครื่องปรับภาวะอากาศสำหรับทำความเย็นขนาดเครื่องละตั้งแต่ยี่สิบตันขึ้นไป
๗. งานอำนวยการซ่อม
(๑) เครื่องกลจักรที่ให้กำเนิดพลังขนาดเครื่องละตั้งแต่ห้าร้อยแรงม้าเพลาขึ้นไป หรือเครื่องกลที่ใช้พลังขนาดเครื่องละตั้งแต่สี่ร้อยแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๒) เครื่องกำเนิดไอน้ำหรือไออย่างอื่น ขนาดที่มีความดันตั้งแต่เจ็ดกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป หรือขนาดที่มีอัตราการผลิตไอน้ำหรือไออย่างอื่นเครื่องละตั้งแต่หนึ่งพันกิโลกรัมต่อหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
(๓) หม้ออัดอากาศหรือหม้ออัดก๊าซ ขนาดที่มีความดันตั้งแต่สิบสามกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป
(๔) เครื่องปรับภาวะอากาศสำหรับทำความเย็นขนาดเครื่องละตั้งแต่ยี่สิบตันขึ้นไป
๘. งานอำนวยการใช้
(๑) เครื่องจักรที่ให้กำเนิดพลังหรือเครื่องกลที่ใช้พลังขนาดเครื่องละตั้งแต่พันแรงม้าเพลาขึ้นไป
(๒) เครื่องกำเนิดไอน้ำหรือไออย่างอื่น ขนาดที่มีอัตราการผลิตไอน้ำหรือไออย่างอื่นเครื่องละตั้งแต่สองหมื่นกิโลกรัมต่อหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
(๓) หม้ออัดอากาศหรือหม้ออัดก๊าซ ขนาดที่มีความดันตั้งแต่สิบสามกิโลกรัมต่อหนึ่งตารางเซนติเมตรขึ้นไป เฉพาะที่มีปริมาตรใบละตั้งแต่สิบลูกบาศก์เมตรขึ้นไป
๙. งานให้คำปรึกษา หมายถึง การให้ข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ตาม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. หรือ ๘.
สาขา ๓ วิศวกรรมไฟฟ้า
(ก) แขนงไฟฟ้ากำลัง
๑. งานออกแบบและคำนวณอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดการผลิตหรือการใช้รวมกันตั้งแต่หนึ่งพันกิโลวัตต์ขึ้นไป หรือขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบตั้งแต่หนึ่งพันสองโวลตขึ้นไป
๒. งานควบคุมการสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการสร้างระบบผลิต ระบบส่ง ระบบจ่าย หรือระบบใช้ไฟฟ้ากำลัง ตั้งแต่หนึ่งพันกิโลวัตต์ขึ้นไป หรือขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบตั้งแต่หนึ่งพันสองร้อยโวลต์ขึ้นไป
๓. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิเคราะห์ การทดสอบหรือการหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจวินิจฉัยงานเกี่ยวกับการผลิต การส่ง การจ่าย หรือการใช้ไฟฟ้ากำลัง ตั้งแต่หนึ่งพันกิโลวัตต์ขึ้นไป หรือขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบตั้งแต่หนึ่งพันสองร้อยโวลต์ขึ้นไป
๔. งานวางโครงการ หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางงานการสร้างสิ่งใดๆ ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแขนงไฟฟ้ากำลัง สำหรับโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
๕. งานอำนวยการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดการผลิตหรือการใช้รวมกันตั้งแต่หนึ่งพันกิโลวัตต์ขึ้นไป หรือขนาดที่แรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบตั้งแต่หนึ่งพันสองร้อยโวลต์ขึ้นไป
๖. งานอำนวยการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบตั้งแต่หกร้อยโวลต์ขึ้นไป
๗. งานอำนวยการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบชนิดยกเดียวตั้งแต่หกร้อยโวลต์ขึ้นไป หรือขนาดที่มีแรงดันสูงสุดระหว่างสายในระบบชนิดหลายยกตั้งแต่หนึ่งพันสองร้อยโวลต์ขึ้นไป หรือขนาดการผลิต การส่ง การจ่าย หรือการใช้ไฟฟ้ากำลังเพื่อสาธารณูปโภคทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตั้งแต่สองร้อยกิโลวัตต์ขึ้นไป หรือขนาดการผลิตหรือการใช้ไฟฟ้ากำลังเพื่องานอย่างอื่น ตั้งแต่หนึ่งพันกิโลวัตต์ขึ้นไป
๘. งานให้คำปรึกษาหมายถึง การใหข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแขนงไฟฟ้ากำลัง ตาม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖ หรือ ๗.
(ข) แขนงไฟฟ้าสื่อสาร
๑. งานออกแบบและคำนวณอุปกรณ์ไฟฟ้าสื่อสาร ขนาดเครื่องกระจายคลื่นตั้งแต่หนึ่งพันวัตต์ขึ้นไป
๒. งานควบคุมการสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการสร้างเครื่องส่งวิทยุหรือเครื่องส่งโทรทัศน์ ขนาดกระจายคลื่นตั้งแต่หนึ่งพันวัตต์ขึ้นไป
๓. งานอำนวยการควบคุมการประกอบบรรดาสิ่งดังกล่าวใน ๒
๔. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิเคราะห์ การทดสอบ หรือการหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแขนงไฟฟ้าสื่อสาร
๕. งานวางโครงการ หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางแผนงานการสร้างหรือการประกอบสิ่งใด ๆ ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแขนงไฟฟ้าสื่อสาร สำหรับโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
๖. งานอำนวยการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าสื่อสารขนาดเครื่องกระจายคลื่นตั้งแต่หนึ่งพันวัตต์ขึ้นไป
๗. งานอำนวยการซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าสื่อสารขนาดเครื่องกระจายคลื่นตั้งแต่หนึ่งพันวัตต์ขึ้นไป
๘. งานอำนวยการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าสื่อสารขนาดเครื่องกระจายคลื่นตั้งแต่หนึ่งพันวัตต์ขึ้นไป
๙. งานให้คำปรึกษา หมายถึง การให้ข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าแขนงไฟฟ้าสื่อสาร ตาม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. หรือ ๘.
สาขา ๔ วิศวกรรมอุตสาหการ
๑. งานออกแบบและคำนวณงานอุตสาหกรรมของโรงงานที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป หรือของโรงงานขนาดที่ต้องลงทุนตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป
๒. งานควบคุมการสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการสร้างในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ แบบรูป และข้อกำหนด สำหรับงานอุตสาหกรรมของโรงงานที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไปหรือของโรงงานขนาดที่ต้องลงทุนตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป
๓. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิคราะห์ การทดสอบ หรือการหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
๔. งานวางโครงการ หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางแผนงานการสร้างหรือการประกอบสิ่งใดๆ ในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ สำหรับโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่สิบล้านบาทขึ้นไป
๕. งานควบคุมการผลิตวัสดุสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป งานหลอมโลหะ งานหล่อโลหะ งานรีดโลหะ งานเคลือบโลหะ หรืองานอบชุบ งานชุบ หรืองานแปรรูปโลหะ ไม้ หรือวัสดุอื่น ๆ สำหรับงานอุตสาหกรรมของโรงงานที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป หรือของโรงงานขนาดที่ต้องลงทุนตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป
๖. งานควบคุมการถลุงแร่และงานทำโลหะให้บริสุทธิ์ที่มีปริมาณการผลิต ดังต่อไปนี้
ดีบุก ตั้งแต่วันละสองตันขึ้นไป
ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง หรือพลวง ตั้งแต่วันละห้าตันขึ้นไป
เหล็ก หรือเหล็กกล้า ตั้งแต่วันละสิบตันขึ้นไป
๗. งานให้คำปรึกษา หมายถึง การให้ข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ตาม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. หรือ ๖.
สาขา ๕ วิศวกรรมเหมืองแร่
๑. งานออกแบบและคำนวณ หมายถึง การใช้ความรู้ในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ เพื่อให้ได้มาซึ่งรายละเอียด โดยแสดงเป็นแบบรูป ข้อกำหนด และประมาณการ ดังต่อไปนี้
(๑) งานทำเหมืองแร่ในแหล่งแร่ชนิดลานแร่ที่ใช้พลังงานรวมกันตั้งแต่หนึ่งร้อยห้าสิบแรงม้าเพลาขึ้นไป หรือที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป
(๒) งานทำเหมืองแร่ในแหล่งแร่ชนิดอื่นซึ่งมิใช่ลานแร่ที่มีปริมาณการผลิตสินแร่ตั้งแต่วันละยี่สิบห้าตันขึ้นไป
(๓) งานทำเหมืองหินที่มีปริมาณการผลิตตั้งแต่วันละห้าสิบตันขึ้นไป
(๔) งานเจาะอุโมงค์หรือปล่อง ที่มีพื้นที่หน้าตัดตั้งแต่สามตารางเมตรขึ้นไป เพื่อกิจการเหมืองแร่
(๕) งานแต่งแร่ ที่ใช้สินแร่จากแหล่งแร่ชนิดอื่นที่มิใช่ลานแร่ตั้งแต่วันละยี่สิบห้าตันขึ้นไป
(๖) งานถลุงแร่ดีบุกและงานทำดีบุกให้บริสุทธิ์ที่มีปริมาณการผลิตตั้งแต่วันละสองตันขึ้นไป
(๗) งานถลุงแร่ตะกั่ว แร่สังกะสี แร่ทองแดง หรือแร่พลวง และงานทำโลหะดังกล่าวให้บริสุทธิ์ ที่มีปริมาณการผลิตตั้งแต่วันละห้าตันขึ้นไป
(๘) งานถลุงแร่เหล็กหรืองานผลิตเหล็กล้า ที่มีปริมาณการผลิตตั้งแต่วันละสิบตันขึ้นไป
(๙) งานหลอม งานหล่อ งานรีด งานเคลือบ หรืองานชุบโลหะ สำรหับงานที่ใช้ลูกจ้างตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป หรืองานขนาดที่ต้องลงทุนตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป
(๑๐) เครื่องกลหรืออุปกรณ์ที่ใช้ทำงานเกี่ยวกับสินแร่หรือหินได้ตั้งแต่วันละสิบตันขึ้นไป
๒. งานควบคุมการสร้าง หมายถึง การอำนวยการควบคุมดูแลการสร้างในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ แบบรูป และข้อกำหนด สำรหับงานที่ระบุไว้ใน ๑ (๑) ถึง (๑๐)
๓. งานพิจารณาตรวจสอบ หมายถึง การค้นคว้า การวิเคราะห์ การทดสอบ การหาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ สำหรับงานที่ระบุไว้ใน ๑ (๑) ถึง (๑๐)
๔. งานวางโครงการ หมายถึง การวางแผนผังหรือการวางแผนงานในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ สำหรับงานที่ระบุไว้ใน ๑ (๑) ถึง (๙)
๕. งานดำเนินการ หมายถึง การรับผิดชอบในการดำเนินงานในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ สำหรับงานที่ระบุไว้ใน ๑ (๑) ถึง (๙)
๖. งานให้คำปรึกษา หมายถึง การให้ข้อแนะนำและหรือการตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ ตาม ๑. ๒. ๓. ๔. หรือ ๕.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๘
พลเอก ป. จารุเสถียร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
(๘๒ ร.จ. ๑๑๐๑ ตอนที่ ๙๖ ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๘)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศให้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้ประกาศและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๐๕ เป็นต้นมา ความมุ่งหมายของพระราชบัญญัตินี้ก็เพื่อที่จะควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมและกำหนดมาตรฐานความรู้ความสามารถตลอดจนความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมให้อยู่ในมาตรฐานอันดี ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สมบัติ จึงจำเป็นที่จะต้องออกกฎกระทรวงวางหลักเกณฑ์ว่า วิชาชีพวิศวกรรมสาขาใด แขนงใด หรือขนาดใด ควรที่จะกำหนดให้เป็นวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เพื่อปฎิบัติให้เป็นไปตามความใน มาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. ๒๕๐๕