ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 1 | ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 2 (การวิเคราะห์หาแรง)
ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 1
มาทำความรู้จักกับแรงแผ่นดินไหว (Earthquake) |
สวัสดีครับ...มุมวิศวกร ตอนที่ 3 ขอหยิบเอาเรื่อง "แรงแผ่นดินไหว" ซึ่งเป็นภัยที่วิศวกรโครงสร้างอย่างพวกเราควรจะตระหนักและศึกษาไว้บ้างก็ดีนะครับในฐานะที่อยู่ในสายงานที่ต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (ความแข็งแรงของโครงสร้าง) โดยเฉพาะบนพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ฯลฯ หรือจะพิจารณาจากกฎกระทรวงฉบับที่ 49 ซึ่งบ้านเราได้มีการกำหนดเป็นโซนต่างๆ ไว้ ดังนั้น โครงสร้างควรได้รับการออกแบบหรือตรวจสอบให้สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ โดยเทียบจากระดับความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับพฤติกรรมและสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวเบื้องต้นก่อนดีกว่า เมื่อภายใต้เปลือกโลกเกิดการเคลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อน (Faults) จึงเกิดการปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างฉับพลัน ทำให้อนุภาคของพวกชั้นดิน/หิน/ทราย ต่างๆ มีการปรับสมดุลย์ของเปลือกโลกให้เข้าที่จึงเคลื่อนตัวด้วย ความเร่ง (a) ต่างๆ ในทุกทิศทางทั้งแนวราบ (แกน x) และแนวดิ่ง (แกน y) โดยทั่วไปในการออกแบบความเร่งทางแนวดิ่งจะไม่ถูกนำมาพิจารณาเพราะมีน้ำหนักของโครงสร้างเองกดทับอยู่ ส่วนความเร่งทางแนวราบจะเป็นแรงตามแนวราบกระทำกับโครงสร้างตาม "กฎของแรง" ของนิวตัน ทำให้โครงสร้างเกิดการโยกสั่นไหวกลับไป - มาทางด้านข้าง เป็นลักษณะการแกว่งแบบคาบ (Period) คล้ายการแกว่งของตุ้มนาฬิกาจนกว่าจะหยุดด้วยมวล (m) เอง ดังภาพจำลองรูปที่ 1
รูปที่ 1 ภาพจำลองแสดงการโยกตัวของโครงสร้างเนื่องจากแรงแผ่นดินไหว
การโยกตัวจะมีระดับความรุนแรงขึ้นอยู่กับความชะลูดของโครงสร้าง ฉะนั้น วิศวกรจึงควรออกแบบให้โครงสร้างสามารถรับแรงเนื่องจากแผ่นดินไหวได้และมีค่าการโยกตัวไม่ควรเกินค่าที่มาตรฐานกำหนด
ค่าความเร่งเนื่องจากแผ่นดินไหว (a) จะเรียกในรูปของร้อยละของความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก (g) ตัวอย่างเช่น a = 0.05g หมายถึง แผ่นดินไหวมีขนาด 5% ของค่า g เป็นต้น
ขนาดของแผ่นดินไหว (Scale) มีหน่วยเป็น มาตราริคเตอร์ (Richter Scales) ซึ่งความรุนแรงของแผ่นดินไหว (Intensity) นั้นจะขึ้นอยู่กับ ขนาดของการไหว ระยะทางจากศูนย์กลางการไหวมายังโครงสร้าง และระยะเวลาที่ไหว โดยทั่วไปมักออกแบบให้โครงสร้างหลัก (Main Structures) สามารถต้านแรงแผ่นดินไหวได้แต่ยอมให้โครงสร้างรอง (Secondary Structures) เสียหายได้บ้าง
สูตรและวิธีการคำนวณแรงแผ่นดินไหว |
มาตรฐานที่นิยมใช้ในการออกแบบอาคารเพื่อต้านแรงแผ่นดินไหว (Design Code) คือ UBC Code ของอเมริกา (Uniform Building Code) ซึ่งการคำนวณหาแรงแผ่นดินไหวมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่สะดวกและนิยมใช้กันมากในงานอาคาร คือ วิธี Lateral Load Analysis หรือวิธี Base Shear Analysis โดยแปลงแรงแผ่นดินไหว (Dynamic Load) ให้อยู่ในรูปของแรงเฉือนกระทำที่ฐานของอาคารแบบ Static Load ซึ่งสามารถหาได้จากสูตร
สูตรที่ 1
|
V = Z I K C S Wd |
……(1)
|
|
|
หรือ
|
||
สูตรที่ 2
|
V = a Wt |
……(2)
|
เมื่อ
V
|
=
|
Total base shear | |||||||||||||||
Z
|
=
|
Seismic zoning factor
|
|||||||||||||||
I
|
=
|
Occupancy important factor (1.0 - 1.5)
|
|||||||||||||||
K
|
=
|
Frame factor
|
|||||||||||||||
C
|
=
|
ค่าสัมประสิทธิ์ซึ่งขึ้นกับคาบ (Period) การแกว่งของอาคาร
ค่า T จะขึ้นอยู่กับประเภทและรูปทรงทางเรขาคณิตของโครงสร้าง สามารถคำนวณได้โดยตรงจากโปรแกรมวิเคราะห์ทาง Dynamic เช่น ETABS, SAP etc. ในกรณีโครงสร้างทั่วไป เราอาจหาค่า T จากสูตรที่ UBC แนะนำ ดังนี้
|
|||||||||||||||
S
|
= |
Soil factor (1.0 - 1.5)
|
|||||||||||||||
Wd |
=
|
Total dead loads of structure | |||||||||||||||
WT
|
=
|
Total dead loads and live loads of structure | |||||||||||||||
a
|
=
|
Base shear coefficient |
อ้างอิงจาก : ตำราวิชาการ "การวิเคราะห์โครงสร้าง" โดย ดร.สมพร อรรถเศรณีวงศ์ , ตำราวิชาการ "การวิเคราะห์โครงสร้าง" โดย ดร.สมพร อรรถเศรณีวงศ์ และ Microfeap.com
คัดลอกจาก : www.microfeap.com ห้อง ดร. สมพร
!!!-------------------------------------------!!!
ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 1 | ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 2 (การวิเคราะห์หาแรง)
ภัยแผ่นดินไหวในงานโครงสร้าง...ตอนที่ 2
การกระจายแรงแผ่นดินไหวเข้าสู่อาคาร |
สวัสดีครับ มุมวิศวกรตอนนี้ขอนำเสนอต่อจากตอนที่แล้ว ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้าใจในเรื่องของการออกแบบที่มีแรงแผ่นดินไหวกระทำกับโครงสร้างเพิ่มเติมครับ ในตอนที่แล้วเราได้กล่าวถึงการหาค่า Total Base Shear (V) จาก 2 สูตร ภายใต้ UBC Code ซึ่งค่า V ที่หามาได้นี้แหละจะนำไปเข้าสูตรเพื่อหาค่าเป็นแรงแนวราบ (Fx) กระจายเข้าสู่ตัวอาคารในแนวด้านข้างที่ระดับชั้นต่างๆ คล้ายกรณีของแรงลม การกระจายแรงมีได้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบเชิงเส้น Linear Distribution (ใช้กันมาก) และรูปแบบ Parabolic Distribution ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 2 รูปแบบการกระจายแรงแผ่นดินไหวกระทำที่ชั้นต่างๆ ของอาคาร
ค่าของแรงกระทำด้านข้างที่ระดับชั้นต่างๆ (Fx) ในแต่ละรูปแบบ คำนวณได้จาก
|
|
|||||||||
(a) Linear distribution
|
(b) Parabolic distribution
|
เมื่อ
V
|
= |
Total base shear เนื่องจากแผ่นดินไหว (หาได้จากสมการในสูตรที่ 1 หรือ 2 ของมุมวิศวกร ตอนที่ 3) | ||||||||||
Wx
|
=
|
Dead loads และ Permanent live loads ของชั้น "x" | ||||||||||
hx
|
=
|
ระดับความสูงของชั้น "x" | ||||||||||
m
|
=
|
เลขยกกำลังที่ใช้พิจารณาของ Parabolic distribution (m > 1) | ||||||||||
Ft
|
=
|
แรงกระทำเพิ่มที่ระดับชั้นสูงสุด เช่น Ft = 0.1V หรือที่ UBC แนะนำ | ||||||||||
|
|
|||
เมื่อ
|
Fi = แรงแนวราบกระทำที่ระดับชั้น " i " |
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานกับโปรแกรม MicroFEAP for Windows โมดูล P1
Example
|
ขั้นตอนการวิเคราะห์
1) -> หาคาบของการแกว่ง T และค่า C จากสูตรอย่างง่ายของ UBC ดังนี้
2) -> หาค่า Total Base Shear จากสูตรที่ (1) ในมุมวิศวกรตอนที่ 3
V =Z I K C S Wd =(0.1875) (1) (0.67) (0.086) (1.25) (1,600) ค่า V =21.61 Ton
3) -> กระจายแรงเข้าสู่โครงสร้างโดยใช้สมการแบบเชิงเส้น Linear Distribution ตามสูตรข้างต้น ดังนี้(3.1) หาค่า Ft ที่ชั้นบนสุด
จากค่า |
T
|
< 0.7 |
ดังนั้น |
Ft
|
= 0 |
(3.2) คำนวณหาแรงแนวราบกระทำที่ชั้นต่างๆ จากสูตร
ดังแสดงในตาราง
ชั้น
|
Wx (Tons)
|
hx (m)
|
Wxhx
|
(Wxhx) / (SWh)
|
Fx (Tons)
|
6
|
300
|
21
|
6,300
|
0.335
|
7.24
|
5
|
200
|
17
|
3,400
|
0.181
|
3.91
|
4
|
200
|
14
|
2,800
|
0.149
|
3.22
|
3
|
200
|
11
|
2,200
|
0.117
|
2.53
|
2
|
200
|
8
|
1,600
|
0.085
|
1.84
|
1
|
500
|
5
|
2,500
|
0.133
|
2.87
|
|
SWh = 18,800
|
SF = 21.61
|
4) -> จะได้แรงกระทำด้านข้าง (Fx) ที่แต่ละชั้น ดังรูปที่ 4
รูปที่ 4 แรงแนวราบซึ่งแปลงมาจากแรงแผ่นดินไหวกระทำที่ชั้นต่างๆ ของโครงสร้าง
5) -> เมื่อแปลงแรงแผ่นดินไหวเป็นแรงแนวราบแบบ Static Force แล้ว ทีนี้จึงกำหนดโครงสร้างจำลอง (Model) ขึ้นมา แล้วเลือกใช้โปรแกรมที่สอดคล้องกับแบบจำลอง เพื่อวิเคราะห์หาค่าพฤติกรรมของโครงสร้างที่ต้องการทราบ เช่น ค่าการเซสูงสุดของอาคาร ค่าแรงเฉือน ค่าแรงดัดในชิ้นส่วนต่างๆ ฯลฯ สำหรับตัวอย่างนี้จะขอเลือกใช้โปรแกรม MicroFEAP for Windows โมดูล P1 (เล่นเส้นนิดหน่อย...ของชมรมฯ เราเองคร้าบบบ) ซึ่งสามารถวิเคราะห์โครงสร้าง 2 มิติ ประเภท Truss และ Frame ได้ ดังแสดงในรูปที่ 5 เป็นการจำลองโครงสร้างที่จะป้อนให้โปรแกรม MFW-P1
รูปที่ 5 แสดงโครงสร้างจำลองของโครงข้อแข็ง ซึ่งประกอบด้วย 21 Nodes, 30 Elements และมีแรงแนวราบกระทำที่จุดต่างๆ
|
|
- เมื่อเปิดโปรแกรมจะพบหน้าต่าง Activity Menu ก่อน ให้เข้าไปที่เมนู Project-data แล้วเลือกทำโปรเจ็กต์ใหม่ (New Project) | |
- ป้อนข้อมูลต่างๆ แล้วเลือกระบบ Structure เป็น 2D Frame เพื่อเข้าสู่หน้าต่าง Main Data Menu | |
- ที่เมนู Node เข้าไปป้อนจำนวน (No. of nodes) ตำแหน่ง (Coordinate) และลักษณะจุดยึด (Boundary) | |
- ที่เมนู Elements เข้าไปป้อนจำนวน (No. of elements) การเชื่อมต่อ (Element connectivity) | |
- ที่เมนู Materials ป้อนจำนวนกลุ่มวัสดุ (No. of material sets) และค่าคุณสมบัติ (Properties) ให้ครบ (E, A, I) | |
- ที่เมนู Loads ในที่นี้เลือกเป็นแรงกระทำที่ joint (Forces applied) | |
- สามารถตรวจดูรูปโครงสร้างจำลองว่าเป็นเหมือนที่จำลองหรือไม่อย่างคร่าวๆ ได้ โดยคลิ๊กที่เมนู Graphics (เป็นรูป Geometry) | |
- ออกจากหน้าต่างของ Main Data Menu จะกลับมายังหน้าต่างของ Activity Menu จากนั้นคลิ๊กเมนู Solution เลือก COMPLETE | |
- เป็นอันเสร็จสิ้นการป้อนข้อมูลไปส่วนหนึ่ง ทีนี้ก็ลองตรวจค่าผลลัพธ์ที่ได้ดูซึ่งสามารถดูผลลัพธ์แบบเป็นตัวเลข ( เมนู Results) หรือแบบรูปภาพ (เมนู Graphics) ก็ได้ |
รูปที่ 6 แสดงรูปการเซของโครงสร้าง ซึ่งวิศวกรควรตรวจสอบค่าการเซสูงสุดไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่ยอมให้ในการออกแบบ
รูปที่ 7 แสดงรูป Bending Moment ที่เกิดขึ้นในชิ้นส่วนของโครงสร้าง ซึ่งวิศวกรสามารถนำไปใช้ตรวจสอบขนาดหน้าตัดของชิ้นส่วนนั้นๆ
|
ตัวอย่างนี้แสดงแค่เพียงพฤติกรรมของโครงสร้างที่มีเพียงแรงแผ่นดินไหว (Dynamic Load)กระทำเท่านั้น ในขั้นตอนการออกแบบควรนำไปพิจารณารวมกับน้ำหนักอื่นๆ เช่น น้ำหนักโครงสร้าง (Dead Load) น้ำหนักบรรทุก (Live Load) หรือแรงลม (Wind Load) เป็นต้น เพื่อให้ได้ค่าหน่วยแรงสูงสุดของแต่ละกรณีก่อนนำไปใช้ออกแบบต่อไป |
อ้างอิงจาก : ตำราวิชาการ "การวิเคราะห์โครงสร้าง" โดย ดร.สมพร อรรถเศรณีวงศ์ , ตำราวิชาการ "การวิเคราะห์โครงสร้าง" โดย ดร.สมพร อรรถเศรณีวงศ์ และ Microfeap.com
คัดลอกจาก : www.microfeap.com ห้อง ดร. สมพร