Cold Joint คืออะไร มีวิธีการการป้องกันและการแก้ไขทำอย่างไร
Cold Joint คืออะไร มีวิธีการการป้องกันและการแก้ไขทำอย่างไร
.
Cold Joint หรือ รอยต่อคอนกรีตที่ไม่ได้เชื่อมกันอย่างต่อเนื่อง → ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการเทคอนกรีตใหม่ลงบนคอนกรีตที่เริ่มแข็งตัวแล้ว โดยที่ยังไม่สามารถรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดแนวรอยต่อที่อาจเป็นจุดอ่อนของโครงสร้าง หากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิด Cold Joint ควรเสียบเหล็กเดือย (Dowel) ที่รอยต่อของคอนกรีตที่จะหยุดเท เพื่อที่จะได้ช่วยเพิ่มแรงยึดเหนี่ยว และเพิ่มความต้านทานต่อแรงเฉือนระหว่างคอนกรีตเก่ากับคอนกรีตใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การให้รายละเอียดตรงนี้ผิวสัมผัสต้องมีความขรุขระ (Roughness) อย่างเพียงพอ ต้องสะอาด รวมทั้งยังควรพิถีพิถันในขั้นตอนการจี้เขย่าคอนกรีตบริเวณรอยต่อ ระหว่างคอนกรีตเก่ากับคอนกรีตใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดรูโพรง (Honeycomb) และช่องว่างอากาศ (Entrapped Air) บริเวณรอยต่อภายหลังจากที่คอนกรีตแข็งตัวไปแล้ว โดยถ้าโครงสร้างรับแรงอัด (Compression) ก็จะไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าโครงสร้างรับแรงเฉือน (Shear) จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการรับกำลัง เช่น โครงสร้าง Shearwall ต้องระวังให้มากๆ เพราะผนังรับแรงเฉือนเป็นโครงสร้างที่ตามมาตรฐาน ACI กำหนดในเรื่องรอยต่อนี้สำคัญมากๆ เนื่องจาก Cold Joint จะทำให้เกิดระนาบที่อ่อนแอ ความต้านทานต่อแรงเฉือนลดลง
.
ถ้าเกิด Cold Joint ใน "ผนังรับแรงเฉือน (Shear Wall)" นี่เป็นประเด็นสำคัญมาก เพราะ ผนังรับแรงเฉือนทำหน้าที่รับแรงด้านข้าง เช่น แรงลม หรือแรงแผ่นดินไหว ดังนั้น Cold Joint ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจเป็นจุดอ่อนของโครงสร้างทั้งหมดได้เลย
.
✅ ผลกระทบของ Cold Joint ในผนังรับแรงเฉือน:
- ลด กำลังรับแรงเฉือน (Shear Capacity) ของผนัง
- เกิด รอยร้าวหรือแตกร้าวภายหลัง ได้ง่าย เมื่อเกิดแรงดึงหรือแรงเฉือน
- เสี่ยงต่อ การหลุดร่อนของเหล็กเสริม (Rebar Bond Failure)
- เป็นจุดเริ่มของการรั่วซึม → ทำให้เหล็กสนิม → ความแข็งแรงลดลงในระยะยาว
.
✅ การเสริมแรงเพิ่มเติม:
หากต้องการเสริมความแข็งแรงเพิ่ม:
- ติดแผ่น FRP (Fiber Reinforced Polymer) หรือ
- เสริมแผ่นเหล็ก (Steel Plate) พร้อม Bolt Anchors ที่ผนังด้านหนึ่ง
.
------------------------------
.
⁉ สรุปสาเหตุที่ทำให้เกิด Cold Joint:
1. หยุดการเทคอนกรีตนานเกินไป จนคอนกรีตชั้นล่างเริ่มเซ็ตตัวก่อนจะเทชั้นถัดไป
2. ไม่มีการเตรียมผิวหน้าคอนกรีตเดิม ก่อนเททับ เช่น ไม่ทำความสะอาด หรือไม่รดน้ำให้ชุ่ม
3. การบริหารจัดการเวลาที่ไม่ดี ในการขนส่งหรือผสมคอนกรีต เทคอนกรีตล่าช้าเกินไป ทำให้ผิวหน้าชั้นล่างแห้ง
.
✅ ลักษณะของ Cold Joint:
- มักมีรอยแยกเล็ก ๆ แนวยาวบริเวณรอยต่อ
- เมื่อเคาะจะได้เสียงกลวงกว่าบริเวณรอบ ๆ
- อาจเห็นรอยแตกเล็ก ๆ ได้ชัดเจน
.
✅ ผลกระทบของ Cold Joint:
- ทำให้ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง
- เป็นจุดเริ่มของการรั่วซึมหรือการกัดกร่อนของเหล็กเสริม
- ลดความทนทานของงานโครงสร้างในระยะยาว
.
✅ วิธีป้องกัน:
- วางแผนการเทคอนกรีตให้ต่อเนื่อง ไม่หยุดนาน
- หากจำเป็นต้องหยุดเท ให้เตรียมแนวรอยต่อให้เหมาะสม (Construction Joint)
- ใช้ สารประสานคอนกรีต (Bonding agent) เมื่อจะเททับบนคอนกรีตที่เซ็ตตัวแล้ว
-
ตัวอย่างการแก้ไข Cold Joint
✅ กรณีที่ยังไม่เทคอนกรีตใหม่ (เตรียมรอยต่อไว้ล่วงหน้า)
ใช้วิธี Construction Joint ที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยต้อง:
- สกัดผิวหน้าคอนกรีตให้ ขรุขระ (Rough Surface)
- ทำความสะอาดฝุ่นและเศษคอนกรีตออก
- ใช้ Water Spray ให้ผิวชุ่มก่อนเทใหม่ (แต่ไม่แฉะ)
- ทา Bonding Agent เช่น SBR Latex หรือ Epoxy Resin บริเวณรอยต่อ
- เทคอนกรีตใหม่ลงให้แนบแน่นทันที
.
✅ กรณีที่เกิด Cold Joint ไปแล้ว (หลังเทเสร็จ)
1. ตรวจสอบความเสียหาย
- เคาะตรวจดูเสียงกลวง
- ใช้การถ่ายภาพ Thermography หรือ Ground Penetrating Radar (ถ้ามี) เพื่อดูภายใน
2. สกัดรอยต่อออกให้ถึงเนื้อดี
- ใช้เครื่องสกัดเบา ๆ เอาส่วนที่เป็น Cold Joint ออกจนถึงคอนกรีตที่แข็งแรง
- ล้างทำความสะอาดฝุ่นออกให้หมด
3. เติมด้วยวัสดุซ่อม
- ใช้ Mortar ซ่อมแซม เช่น Non-shrink grout หรือ Epoxy mortar
- ทา Epoxy bonding agent ก่อนโปะแนวปูน
4. กรณีรอยรั่วซึม ให้เพิ่ม:
- Injection Grout (PU / Epoxy) เข้าในรอยแยก
- Waterproofing membrane หรือ Waterstop (ถ้าอยู่ในงานกันซึม)
------------------------------
รายละเอียดทางเทคนิคที่ควรรู้ เพื่อหลีกเลี่ยง Cold Joint
✅เวลาเซ็ตตัวของคอนกรีต = เริ่มเซ็ตตัวภายใน 30-60 นาที หลังจากผสม
✅เวลาที่ไม่ควรเกินในการเทต่อ = ไม่ควรเกิน 90 นาที ถ้าอุณหภูมิสูงควรเร็วกว่านี้
✅ค่าแรงยึดเกาะ Bond Strength = ควร ≥ 1.5 MPa สำหรับงานโครงสร้าง
✅วัสดุประสานยอดนิยม = Epoxy resin (2 part), SBR Latex
.
----------------------------
.
10 วิธีควบคุมคุณภาพคอนกรีตไม่ให้เกิด Cold Joint
.
✅ ก่อนเทคอนกรีต:
1. วางแผนลำดับการเท (Pouring Sequence) ให้ชัดเจน
- หลีกเลี่ยงการหยุดเทระหว่างงาน
- แบ่งโซนหรือแบ่งจุดเทไว้ล่วงหน้า
2. จัดเตรียมแรงงานและอุปกรณ์ให้เพียงพอ
- เครื่องผสม, เครื่องจี้ (Vibrator), ปั๊ม, รถโม่ พร้อมใช้งานไม่สะดุด
3. หลีกเลี่ยงการผสมหรือเติมน้ำเพิ่มหน้างาน
- ถ้าคอนกรีตเริ่มแข็งตัวเพราะรอนาน ให้ใช้ Retarder ไม่ใช่เติมน้ำ
4. ตั้งเวลารับ-เทคอนกรีตให้สอดคล้องกับเวลาการเซตตัว (Setting Time)
- ปกติ: ควรเทต่อเนื่องภายใน 45–60 นาทีหลังผสม
.
✅ ระหว่างเทคอนกรีต:
5. ใช้ Vibrator จี้ให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง
- เพื่อให้คอนกรีตอัดแน่น ไม่มีโพรงอากาศ
6. ไม่เว้นช่วงระหว่างการเทเกิน 30–45 นาที
- โดยเฉพาะในอากาศร้อน คอนกรีตจะแห้งเร็วมาก
7. ถ้าจำเป็นต้องหยุดเท: เตรียมแนวหยุดแบบถูกวิธี
- หยุดในแนวตั้งหรือบริเวณไม่มีแรงเฉือนสูง
- เตรียมพื้นผิวหยุดเทให้หยาบ (Keyed joint หรือ Roughen face)
.
✅ เมื่อเทเสร็จ:
8. บ่มคอนกรีต (Curing) อย่างเหมาะสม
- คลุมผ้าเปียกหรือใช้แผ่นพลาสติก + ฉีดน้ำอย่างน้อย 7 วัน
9. ตรวจสอบการเทด้วย Checklist หรือบันทึกไซต์
- เช่น เวลาเริ่ม-หยุดเท, ลำดับเท, จำนวนคนทำงาน, เวลาแข็งตัว
10. ใช้วัสดุประสาน (Bonding Agent) หากมีการเททับ
- เช่น Sika Latex หรือ Epoxy Resin ระหว่างชั้นคอนกรีต
.
เคล็ดลับเสริม:
✅ ถ้าเทพื้นหรือผนังใหญ่ๆ → ใช้ Cold Joint Plan ระบุจุดหยุดเทที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า (หลีกเลี่ยงตรงตำแหน่งที่แรงเฉือนมากที่สุด)
✅ ให้ทีมงานเข้าใจ ความสำคัญของเวลา ไม่ใช่แค่เทๆ ไป วิศวกรคุมงานควรถ่ายทอดองค์ความรู้เบื้องต้นเหล่านี้ให้กับโฟร์แมนหรือช่างหน้างาน
.
✅ Cold Joint ไม่ใช่แค่เรื่องของคอนกรีต แต่คือเรื่องของ "ระบบงาน" และ "คน" ที่ต้องพร้อมกันหมด
.
.
‼‼ ‼‼ : สำหรับระยะหยุดเทสำหรับผนังรับแรงเฉือน (Shear Wall) สำหรับอาคารสูง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมีส่วนที่รับแรงด้านข้าง Shear Wall ซึ่งทำให้เกิดแรงเฉือนสูง
.
✅ ตำแหน่งที่ควรหยุดเทคอนกรีตในผนังรับแรงเฉือน
.
1. หยุดเทที่ระดับพื้น (Floor Level)
- เป็นจุดที่ “เหมาะที่สุด” และนิยมใช้กันทั่วไป
- เพราะมีคอนกรีตพื้นมารองรับแรง และช่วยให้ถ่ายแรงระหว่างชั้นได้ดี
- ทำให้การจัดวางเหล็ก Dowel หรือ Coupler ง่ายขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการหยุดในช่วงกลางผนัง (กลางชั้น)
- ตรงนั้นมักเป็นจุดที่มีแรงเฉือนหรือแรงดัดสูง
- การหยุดเทตรงนั้นอาจเกิด Cold Joint ซึ่งอ่อนแรงและแตกร้าวในอนาคต
3. หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องหยุดกลางช่วง (ในกรณีจำเป็น)
- ต้อง ทำรอยต่อให้หยาบ (Roughen surface)
- ใช้ Bonding agent / Epoxy
- วางเหล็กหนาแน่นตามแบบ และทำความสะอาดหน้ารอยต่อก่อนเทใหม่
.
✅ ระยะความสูงต่อการเท (Lift Height)
- ทั่วไปเทได้ประมาณ 3.0 เมตร/ลิฟต์ (ขึ้นกับแบบและแบบหล่อ)
- ถ้ามีแรงเฉือนสูง หรือผนังหนา อาจลดลงเหลือ 2.5 เมตร/ลิฟต์
.
✅ ข้อควรระวังเพิ่มเติม
- อย่าหยุดเทในบริเวณที่มี ช่องเปิด (Opening) เช่น หน้าต่าง/ประตู
- อย่าหยุดเทบริเวณที่มี Confinement Zone หรือ Boundary Element เพราะจุดนั้นแรงสูง ควรเทให้ต่อเนื่อง
-------------------------------------
✅ อ้างอิง
- CPAC Concrete Academy
- nsplusengineering
- nongyaiconcrete.co.th
- T.A.TECH Co., Ltd.
- Critical cold joint angle in concrete https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0950061823035997
- ACI 350 Shrinkage and Temperature Reinforcement