Method Statement for Post tension slab ( Bonded System )
ขั้นตอนการทำระบบพื้น Post Tension ( CCL Bonded System )
โดยนายช่างมนัส จันระภู
1. ติดตั้งค้ำยัน และแบบข้าง ให้แน่นและแข็งแรง
2. วางเหล็กเสริม บน ล่าง ตาม Shop Drawing หนุนลูกปูนเพื่อจัด Converng และจัดตำแหน่งเหล็กโดยใช้ Bar Chair
3. วางลวดอัดแรง และติดตั้ง ANCHORAGE ตามแบบ Shop Drawing โดย ailment ของลวดอัดแรงต้องได้ระยะตามที่คำนวณไว้โดยค่า Tolerance ของแนว Horizontal ? 20 mm. และ Vertical + 4 mm.
4. วางเหล็กเสริมแบบ และรายละเอียดเหล็กเสริมบริเวณหัวเสา
5. เทคอนกรีตตาม Strength ที่ทำ Mix Design ให้เสนอ Approve ก่อนเทควรตรวจสอบ Slump ทุกครั้ง Slump ต้องได้ตามที่ผู้ออกแบบ Design ไว้
6. ดึงลวดอัดแรงเมื่อกำลังอัดคอนกรีตรูปทรงกระบอกไม่น้อยกว่า 240 ksc. หรือประมาณ 75 % ของ Strength Design
7. อัดน้ำปูนเข้าท่อร้อยลวดอัดแรง ในกรณีที่ใช้ wedge 3 รูแต่ร้อยสลิงแค่ 2 รู อาจต่อท่อ air vent เข้ากับอีกรู
เพื่อป้องกันการเสียหายของผิวหน้าคอนกรีต เนื่องจากการ
อุปกรณ์การ Stressing
1. เครื่องมือและอุปกรณ์การดึงลวดอัดแรง
- Hidraulic Pump
- Hidraulic Jack
- CCL Mastermatc, Proving Ring
การดึงลวดจะกระทำเมื่อกำลังอัดประลัยคอนกรีตรูปทรงกระบอกไม่น้อยกว่า 240 กก. / ตร.ซม. ( 75 % Strength design ) โดยจะกระทำตามลำดับดังนี้
ขั้นตอนการ STRESSING
2.1 ก่อนดึงลวด ทำการ Calibrate เครื่องดึงลวดและทำเครื่องหมาย โดยการพ่นสีไว้ที่ปลายลวดที่จะดึง เพื่อเป็นระยะอ้างอิงในการวัดหาค่าระยะยืดของลวด ( โดยทั่วไปจะพ่นสีห่างจากกิ๊ฟประมาณ 10 ซม. )
2.2 ทำการดึงลวด 50 % ของจำนวนลวดทั้งหมดในแนว Main Tendon หรือ ดึงกลุ่มเว้นกลุ่ม
2.3 ทำการดึงลวด 50 % ของจำนวนลวดทั้งหมดในแนว Distribute Tendon
2.4 ดึงลวดที่เหลือทั้งหมดในแนว Main Tendon
2.5 ดึงลวดที่เหลือทั้งหมดในแนว Distribute Tendon
2.6 หลังจากดึงลวดเสร็จเรียบร้อย จะทำการวัดระยะยึดจริง โดยวัดระยะจากกิ๊ฟ ถึงตำแหน่งพ่นสีที่ทำไว้เพื่อนำค่าระยะยึดจริงของลวดเปรียบเทียบกับค่า Elongation ที่ออกแบบไว้
2.7 กรณีที่วัดค่า Elongation จากการดึงลวด ได้ค่าไม่ตรงตามข้อกำหนด จะต้องทำการดึงซ่อม หรือหาทางแก้ไขเป็นกรณีไป
3. การควบคุมแรงดึงในเส้นลวด
3.1 ควบคุมแรงดึงจาก Pressure – Gage ที่เครื่อง Hydraulic Pump
3.2 เปรียบเทียบค่าระยะยึดจริงของลวดกับค่า Elongation ที่ได้ออกแบบไว้โดยค่าที่จะแตกต่างกันไม่เกิน 5 % ( ตามค่ากำหนด )
4. กรณีที่ค่าระยะยึดจริงของลวดกับ Elongation ที่ออกแบบไว้แตกต่างกันเกิน 5 % ให้ทำการตรวจสอบและแก้ไขเป็นกรณีไป
4.1 กรณีเกิน 5 % ( ระยะยึดของลวดน้อยกว่ารายการคำนวณ Elongation )
- ให้เพิ่มแรงดึงแต่ต้องไม่เกิน 80 % Fpu. ( 15 ตัน ) แล้ววัดระยะยืดของลวดที่เพิ่มขึ้น
- กรณีที่เพิ่มแรงดึงถึง 80 % Fpu. แล้วระยะยึดของลวดเกิน 5 % ให้ทำการคำนวณตรวจสอบโครงสร้างเฉพาะส่วนนั้น ๆ โดยใช้ค่าแรงดึงลวดที่เกิดขึ้นจริง
4.2 กรณี 5 % ( ระยะยึดจริงมากกว่ารายการคำนวณ Elongation )
- ตรวจสอบแรงดึง โดย Re – Stressing ด้วยแรง 75 % Fpu. ( 14 ตัน ) สังเกตระยะยืดเพิ่มแรงช้า ๆ สังเกตระยะยึดจนลวดขยับตัวอ่าน Pressure Gage จะได้ค่าแรงในลวดเส้นนั้น ๆ ตรวจสอบว่าเกิน 80 % Fpu. หรือไม่ ถ้าไม่เกินถือว่าผ่าน กรณี 50 % Fpu. ให้รายงานผู้ออกแบบเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
1. การอัดน้ำปูน ( Grouting Cement )
1.1 เครื่องมือและอุปกรณ์การอัดน้ำปูน
- เครื่องมืออัดน้ำปูน ( Mono Pump )
- เครื่องผสมปูน ( Mixer Tank )
1.2 วัสดุ Grouting Cement
1.3 วัสดุ Grouting Cement เป็นส่วนผสมของปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 ผสมกับน้ำ และ Admixture โดยมีอัตราส่วนของน้ำต่อซีเมนต์ ( W/C RATIO ) ไม่เกิน 0.45 โดยน้ำหนักดังอัตราส่วนต่อไปนี้
- ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 = 50 kg.
- Admixture ( Aluminum ) ส่วนผสมตามสูตรของ Admixture แต่ละชนิด
- น้ำ = 20 – 22 ลิตร
ก่อนจะนำส่วนผสมไปอัดน้ำปูน จะต้องทำการทดสอบการไหล ( Test Flow Rate ) ของส่วนผสมก่อนโดยให้ได้อัตราการไหลประมาณ 11 วินาที โดยใช้ปริมาตร 1.7 ลิตร และจะต้องทำการเก็บ
ลูกปูนไว้ทดสอบกำลังอัด( 151 ksc อายุ 7 วัน ), ( 280 ksc อายุ 28 วัน)
หมายเหตุ ปริมาตร 1.7 ลิตร ใช้เวลาประมาณ 7 – 8 วินาที
1.4 ขั้นตอนการอัดปูนน้ำ
- ก่อนการอัดปูนน้ำจะต้องทำการอุดปูนทรายหุ้มสมอยึด เพื่อป้องกันการรั่วของน้ำปูน Grout บริเวณสมอยึด
หมายเหตุ ทำการตัดปลายลวดก่อนทำการอุดปูนทรายหุ้มสมอยืด
- ทำความสะอาดท่อร้อยลวดอัดแรง โดยการอัดน้ำหรือเป่าลมเข้าไปในท่อเพื่อไล่สิ่งสกปรกที่อยู่
ภายในท่อออกและยังเป็นการตรวจสอบว่าท่อตันหรือไม่ ถ้าตันให้ทำการเจาะรูใหม่เพื่อให้สามารถอัดน้ำปูนได้เต็ม
- ทำการอัดน้ำปูนเข้าไปในท่อร้อยลวดอัดแรง ผ่านท่อ Air vent ด้านหนึ่งให้น้ำปูนไหลผ่านท่อ Air vent ที่ปลายสมอยึดอีกด้านหนึ่ง แล้วจึงทำการปิด Air vent ที่ปลายสมอยึดด้านท้าย คงค้างแรงดันอย่างน้อย 50 PSI หรือ 3.5 ksc. เป็นเวลา 5 วินาที ก่อนทำการปิดท่อ Air vent ( โดยการพับท่อ Air vent ที่อัดน้ำปูนไว้เพื่อรักษาความดันภายในท่อไว้ )
- ภายหลังจากอัดน้ำปูนทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงค่อยตัดท่อ Air vent โดยสกัดเข้าไปในเนื้อคอนกรีตประมาณ 2 – 3 ซม. แล้วจึงทำการ Grout ปูนแต่งผิวคอนกรีต
อ้างอิงจาก http://junrapoo.tripod.com/structure.htm