ชื่อ : คุณวิชิต ปัทมินทร์ (ผู้เขียนโปรแกรม RC-Thai ,Truss และอีกหลายๆตัว)
ตำแหน่ง : ผู้ช่วยผังเมืองจังหวัดฝ่ายวิศวกรรม จังหวัดหนองบัวลำภู
องค์กร,บริษัท : สำนักงานผังเมืองจำหวัดหนองบัวลำภู
email : [email protected] , [email protected]
เบอร์โทร : 06-762-1790 , 01-544-2773
สัมภาษณ์ คุณวิชิต ปัทมินทร์
ผมเริ่มรู้จัก Computer และใช้งานอย่างจริงจังเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2527 ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องประเภท Pocket PC หรือ Programable calculator ซึ่งใช้งานอยู่ในวงจำกัด เช่น การคำนวณหาค่าต่าง ๆ ทางด้านการสำรวจ และทางวิศวกรรม โปรแกรมแรกที่เขียนเพื่อใช้งานอย่างเป็นเรื่องเป็นราว คือ โปรแกรมด้านการสำรวจจัดทำแผนที่เพื่อการวางผังเมืองรวม ซึ่งเป็นงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ (เป็นข้าราชการสังกัดสำนักผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น กรมการผังเมือง อย่างในปัจจุบัน) โดยมากส่วนใหญ่จะเป็นการสำรวจภาคสนาม สำรวจเก็บข้อมูล สภาพภูมิประเทศของเมือง และงานสำรวจปรับแก้หมุดหลักฐานแผนที่ รวมทั้งเขียนแผนที่ด้วย ความยุ่งยากและซับซ้อน จะอยู่ที่การคำนวณปรับแก้ เดิมเราจะใช้เจ้าหน้าที่ (คน) และเครื่องคิดเลขแบบที่มี Function ทางคณิตศาสตร์เท่านั้น ถ้าเมืองมีขนาดใหญ่ พื้นที่ของการวางผัง มีอาณาเขตกว้างมากครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร จำนวนหมุด Ground Control (หมุดบังคับแผนที่) จะมีจำนวนมากตามไปด้วย รวมทั้งระยะรวม (Total Dirt) ของวงรอบ (Traverse) บางแห่งจะต้องเดินวงรอบเป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ปัญหาที่จะตามมา คือ การปรับแก้วงรอบเมื่อมีการเข้าบรรจบ (Closed) ซึ่งเสียเวลาไปในการดำเนินการส่วนนี้มากพอสมควร เพราะเมื่อค่าความผิดพลาด หรือค่าความละเอียดของงาน ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ทางกรมกำหนด ก็จะต้องมีการปรับแก้ หรือหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากจุดใด (เรื่องของมุม, ระยะ, ค่าระดับ) (อ้อลืมบอกไปว่าการคำนวณหมุดโครงแผนที่จะคำนวณเป็นระบบพิกัดจาก UTM Grid ซึ่งเป็นระบบสากล) ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากในการบริหารจัดการด้านเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติงานราชการ รวมไปถึงเงื่องไขด้านงบประมาณด้วย จากปัญหา เงื่อนไข และข้อจำกัดดังกล่าวรวมทั้งนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ (ขี้เกียจ) ทำให้เกิดแนวความคิดว่าน่าจะมีเครื่องมืออะไรสักอย่างมาจัดการแทนคน ในส่วนนี้ จึงเป็นมูลเหตุ เบื้องต้นในการศึกษาการเขียนโปรแกรม เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องแรกที่ใช้ในการศึกษาก็คือ เครื่อง Sharp PC 1500 (Pocket PC , Ram 8 kb) ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องครูก็ว่าได้ ภาษาที่ใช้คือ ภาษา Basic โปรแกรมนี้พัฒนาบน PC 1500 สามารถทำงานได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องหน่วยความจำไม่สามารถคำนวณงานที่มีขนาดใหญ่หรือข้อมูลจำนวนมากได้ (สามารถคำนวณปริมาณหมุดโครงแผนที่ได้เพียง 256 หมุด เท่านั้น) เรื่องของปัญหาข้อมูล เรื่องของการแสดงผล ไม่สามารถพิมพ์รายงานได้จะต้องจดบันทึกจากจอภาพเอง เมื่อผลการคำนวณออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะลดขั้นตอนการคำนวณ ลงได้อย่างมาก จากต้องทำเป็น 2 - 3 อาทิตย์จะเหลือเพียง 1 - 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งก่อให้เกิดกำลังใจในความพยายามค้นคว้าและพัฒนาต่อไป ประจวบกับได้ซื้อ Computer PC เครื่องใหม่ชึ่งความสามารถมากขึ้น เป็นเครื่องที่มี CPU 8088 ความเร็ว 4.7 MHz ปัจจุบันโปรแกรมดังกล่าว (Serveying) ได้หยุดการพัฒนาแล้ว เนื่องจากมี Technology ด้านการสำรวจด้วยดาวเทียมเข้ามาแทนที่ ทั้งโปรแกรมต่าง ๆ ด้านการสำรวจ, ระบบหาพิกัดด้วยดาวเทียม (GPS) ทำให้การสำรวจด้านพื้นดินลดบทบาทลงประกอบกับการสำรวจจัดทำแผนที่ หรือการวางผังเมือง จะใช้ระบบการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้ดำเนินการ
ในส่วนของทางด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวกับการก่อสร้างได้พัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ ด้วยโปรแกรมภาษา Basic และพัฒนาขึ้นมาเป็นภาษาที่มีโครงสร้างมากขึ้น (MS Quick Basic 4.5) โดยโปรแกรมส่วนใหญ่ที่เขียนจะเขียนขึ้นเพื่อใช้เอง ทั้งการคำนวณ และออกแบบซึ่งเป็นการพัฒนา, ค้นคว้า, ประสบการณ์ จากการใช้โปรแกรมของโปรแกรมเมอร์ท่านอื่นทั้งไทยและต่างประเทศมักจะพบปัญหาข้อจำกัดและอุปสรรคมากมายในการใช้งาน จึงได้รวบรวมข้อดีและส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ หรือไม่สะดวกสบายในการใช้งาน เป็นข้อมูลในการวางโครงงาน การจัดทำโปรแกรมต่าง ๆ ใน Style ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม RC - Design (Thai / Eng) , 2D - Plantruss , 2D - Plane Frame , โปรแกรมออกแบบ(Purlin)เป็นต้น
ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว การใช้โปรแกรม Computer ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ แค่ไหนก็ตามการใช้งานจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความรู้ และรู้จริงในงานนั้น ๆ และอีกประการหนึ่งโปรแกรมเป็นเครื่องมือตัวหนึ่ง ที่ช่วยให้เราทำงานสะดวกรวดเร็วขึ้นเท่านั้น ความถูกต้อง ความละเอียดแม่นยำ และความรับผิดชอบต่องานนั้น ขึ้นอยู่กับวิจารณญานของวิศวกร จะเป็นผู้เลือกว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อผลที่ได้จากการ Run โปรแกรมนั้น ๆ
อยากเห็น ความร่วมมือของบรรดาโปรแกรมเมอร์ ที่มีความรู้ความสามารถในด้านงานวิศวกรรมหรืองานสาขาอื่น ๆ ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมในลักษณะการทำงานเป็นทีม มากกว่าการทำงานหรือพัฒนาโปรแกรมตามลำพังคนเดียว เพราะการร่วมมือ ร่วมความคิด ร่วมกำหนดเป้าหมาย แนวทางการทำงานจะเป็นเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดพลังในการดึงเอาศักยภาพของโปรแกรมเมอร์แต่ละท่านออกมา สร้างสรรค์พัฒนาเพื่อสังคมส่วนรวมต่อไป
การดำเนินชีวิตในภาวะเศรษฐกิจเวลานี้ เป็นเรื่องยากและค่อนข้างลำบากในการประคองตัวให้รอดพ้น จากภาวะอันเลวร้ายนี้ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนๆและน้อง ๆวิศวกรที่ทำงานในภาคเอกชนคงประสบปัญหาหนักเอาการทีเดียว ในส่วนของผู้ที่อยู่ในภาครัฐก็คงมีผลกระทบบ้างแต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากอย่างน้อยก็ไม่ต้องตกงาน จะมีก็แต่รายได้พิเศษจากการทำงาน Part time อาจขาดหายไปบ้าง การมีสติ, ความรอบคอบ, ความไม่ประมาท, อดทน, การดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่น่าจะดีและเหมาะกับสถานการณ์ที่สุด จะทำให้ผ่านพ้นภาวะการณ์อันนี้ไปได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่าน ค้นหาและพบแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างที่ท่านอยากเป็น และประสบกับความสำเร็จ, ความสุข, ความเจริญทุกท่าน
|